Skip to content
Search

10 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 กรองฝุ่น PM 2.5

เครื่องฟอกอากาศ ตัวช่วยสำคัญในการรับมือ PM 2.5

ในปัจจุบัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 กลายเป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนเมือง การมีเครื่องฟอกอากาศติดบ้านหรือที่ทำงานจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับทุกคน เครื่องฟอกอากาศช่วยกรองอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ช่วยให้หายใจสะอาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ทำไมเครื่องฟอกอากาศถึงจำเป็น?

  • กรองฝุ่น PM 2.5: เครื่องฟอกอากาศที่มีระบบกรอง HEPA สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็กได้มากถึง 99.97%

  • ลดอาการภูมิแพ้: ช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ หรือขนสัตว์เลี้ยง

  • ปรับปรุงคุณภาพอากาศในห้อง: ทำให้อากาศสะอาดขึ้น หายใจได้สบาย ลดอาการระคายเคืองตาและทางเดินหายใจ

  • สุขภาพดีขึ้นในระยะยาว: ป้องกันการเกิดโรคทางเดินหายใจและโรคเกี่ยวกับระบบหายใจอื่นๆ

การลงทุนกับเครื่องฟอกอากาศในยุคที่มีมลพิษ PM 2.5 เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องสุขภาพของคุณและครอบครัว

 

10 เครื่องฟอกอากาศแนะนำ 2025

      1. Xiaomi Mi Smart Air Purifier 4 Compact
      2. Xiaomi Mi Smart Air Purifier 4 Lite
      3. SHARP Air Purifier FP-S42B-L
      4. Dyson Purifier Cool ™ Gen1 Air Purifier TP10
      5. Levoit Core 600S
      6. ELECTROLUX UltimateHome 300
      7. TEFAL PT2530F0
      8. Smartmi Air Purifier 2
      9. Simplus OxyCare A2
      10. Philips Air Purifier AC0650/10

1. Xiaomi Mi Smart Air Purifier 4 Compact

2,790 บาท   (เปิดตัว  2,990 บาท)

ราคายังไม่รวมส่วนลด

เครื่องฟอกอากาศขนาดกะทัดรัดเหมาะกับห้องขนาดเล็ก มีระบบกรองอากาศ 3 ชั้น และควบคุมผ่านแอป Mi Home ได้ง่ายดาย

จุดเด่น
  • ราคาคุ้มค่า ช่วยประหยัดงบในการเลือกซื้อ

  • ตัวเครื่องขนาดเล็กกะทัดรัด ไม่เปลืองพื้นที่วาง

  • การใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ตั้งค่าได้รวดเร็ว

จุดที่ควรพิจารณา
  • ประสิทธิภาพครอบคลุมเฉพาะห้องขนาดเล็ก — ไม่เหมาะกับพื้นที่กว้าง

พื้นที่ครอบคลุม : 16 – 27 ตร.ม.

ความคุ้มค่า: 9.5/10

2. Xiaomi Mi Smart Air Purifier 4 Lite

4,460 บาท   (เปิดตัว  4,990 บาท)

ราคายังไม่รวมส่วนลด

รุ่นนี้โดดเด่นด้วยฟังก์ชันการฟอกอากาศอย่างรวดเร็วด้วยระบบ HEPA และสามารถควบคุมผ่านแอปมือถือได้อย่างสะดวก

จุดเด่น
  • ประสิทธิภาพการฟอกสูง กำจัดฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ได้รวดเร็ว

  • เชื่อมต่อและควบคุมผ่านมือถือ ปรับโหมด–ตรวจเช็กคุณภาพอากาศได้สะดวก

  • ออกแบบให้ประหยัดพลังงาน ช่วยลดค่าไฟในระยะยาว

จุดที่ควรพิจารณา
  • ระดับเสียงอาจดังเมื่อเครื่องทำงานเต็มกำลัง — อาจไม่เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความเงียบสูง

พื้นที่ครอบคลุม : 25 – 43 ตร.ม.

ความคุ้มค่า: 8.8/10

3. SHARP Air Purifier FP-S42B-L

8,490 บาท   (เปิดตัว  10,790 บาท)

ราคายังไม่รวมส่วนลด

เครื่องฟอกอากาศพร้อมระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ ช่วยกำจัดไวรัสและสารก่อภูมิแพ้ได้ดีมาก ทำงานเงียบและประหยัดไฟ

จุดเด่น
  • เทคโนโลยี พลาสม่าคลัสเตอร์ ช่วยลดเชื้อโรค และกลิ่นไม่พึงประสงค์

  • การทำงานเงียบ เหมาะสำหรับห้องนอนหรือพื้นที่ทำงานที่ต้องการความสงบ

  • ระบบกรองหลายชั้น ดักจับฝุ่นและอนุภาคขนาดเล็กได้อย่างละเอียด

จุดที่ควรพิจารณา
  • ราคาค่อนข้างสูง — อาจต้องชั่งน้ำหนักความคุ้มค่าตามงบประมาณ

พื้นที่ครอบคลุม : 30 ตร.ม.

ความคุ้มค่า: 9/10

4. Dyson Purifier Cool ™ Gen1 TP10

14,400 บาท   (เปิดตัว  19,990 บาท)

ราคายังไม่รวมส่วนลด

เครื่องฟอกอากาศระดับพรีเมียมที่มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย มีเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศอัตโนมัติและพัดลมไร้ใบพัดที่เงียบสนิท

จุดเด่น
  • ดีไซน์ทันสมัย เสริมลุคโมเดิร์นให้พื้นที่

  • โครงสร้างไร้ใบพัด ปลอดภัย ใช้งานสะดวกต่อการทำความสะอาด

  • ตรวจจับคุณภาพอากาศอัตโนมัติ ปรับระดับการฟอกได้แม่นยำ

จุดที่ควรพิจารณา
  • ราคาสูงมาก — เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณค่อนข้างสูง

พื้นที่ครอบคลุม : 27 ตร.ม.

ความคุ้มค่า: 9.2/10

5. Levoit Core 600S

9,440 บาท   (เปิดตัว  9,990 บาท)

ราคายังไม่รวมส่วนลด

เครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูง มาพร้อมฟิลเตอร์ True HEPA มีฟังก์ชันควบคุมผ่านแอปและรองรับคำสั่งเสียง Alexa และ Google Assistant

จุดเด่น
  • รองรับการสั่งงานด้วยเสียง สะดวกแบบแฮนด์ฟรี

  • แอปควบคุมใช้งานง่าย ตั้งค่าและตรวจสอบสถานะได้รวดเร็ว

  • ประสิทธิภาพกรองอากาศเร็ว เห็นผลไวในพื้นที่ใช้งาน

จุดที่ควรพิจารณา
  • ตัวเครื่องขนาดค่อนข้างใหญ่ — ต้องเตรียมพื้นที่วางเฉพาะ

พื้นที่ครอบคลุม : 147 ตร.ม.

ความคุ้มค่า: 9.2/10

6. ELECTROLUX UltimateHome 300

3,490 บาท   (เปิดตัว  3,490 บาท)

ราคายังไม่รวมส่วนลด

เครื่องฟอกอากาศที่มีระบบกรอง 4 ขั้นตอน พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศอัจฉริยะ และสามารถควบคุมผ่านแอปมือถือได้สะดวก

จุดเด่น
    • ระบบกรองละเอียดหลายชั้น ดักจับอนุภาคเล็ก และ สารก่อภูมิแพ้ได้มีประสิทธิภาพ

    • เซ็นเซอร์อัจฉริยะตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ พร้อมปรับการทำงานอัตโนมัติ

    • ควบคุมผ่านแอปได้ง่าย – ตั้งค่าและติดตามสถานะจากสมาร์ตโฟนสะดวกทันใจ

จุดที่ควรพิจารณา
  • ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนไส้กรองค่อนข้างสูง — ควรเผื่องบซ่อมบำรุงระยะยาว

พื้นที่ครอบคลุม : 23 – 26 ตร.ม.

ความคุ้มค่า: 8.9/10

7. TEFAL PT2530F0

3,540 บาท   (เปิดตัว  5,990 บาท)

ราคายังไม่รวมส่วนลด

เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพดี ด้วยระบบฟอกอากาศ 3 ชั้น ราคาย่อมเยาและใช้งานง่าย

จุดเด่น
  • ราคาสบายกระเป๋า — ตัวเลือกประหยัดงบ

  • ขนาดเล็กกะทัดรัด วางได้แม้พื้นที่จำกัด

  • การใช้งานไม่ซับซ้อน เริ่มใช้ได้ทันที

จุดที่ควรพิจารณา
  • ประสิทธิภาพครอบคลุมเฉพาะห้องขนาดเล็ก — ไม่เหมาะกับพื้นที่กว้าง

พื้นที่ครอบคลุม : 90 ตร.ม.

ความคุ้มค่า: 8.3/10

8. Smartmi Air Purifier 2

6,790 บาท   (เปิดตัว  12,990 บาท)

ราคายังไม่รวมส่วนลด

เครื่องฟอกอากาศที่มีดีไซน์เรียบง่ายทันสมัย พร้อมระบบกรอง True HEPA และหน้าจอแสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์

จุดเด่น
  • มีหน้าจอแสดงข้อมูลคุณภาพอากาศและสถานะการทำงานแบบเรียลไทม์

  • ดีไซน์ทันสมัย เข้ากับการตกแต่งหลากสไตล์

  • ราคาเป็นมิตร ให้ความคุ้มค่าต่อฟังก์ชันที่ได้รับ

จุดที่ควรพิจารณา
  • ระดับเสียงอาจดังเล็กน้อยเมื่อเครื่องทำงานเต็มกำลัง

พื้นที่ครอบคลุม : 45 ตร.ม.

ความคุ้มค่า: 8.6/10

9. Simplus OxyCare A2

2,669 บาท   (เปิดตัว  2,990 บาท)

ราคายังไม่รวมส่วนลด

เครื่องฟอกอากาศราคาย่อมเยาที่เหมาะกับการใช้งานในห้องขนาดเล็กถึงกลาง ฟอกอากาศได้รวดเร็วและประหยัดไฟ

จุดเด่น
  • ราคาย่อมเยา คุ้มค่าสำหรับผู้มีงบจำกัด

  • ประหยัดพลังงาน ช่วยลดค่าไฟระยะยาว

  • ขนาดกะทัดรัด วางง่ายแม้พื้นที่จำกัด

จุดที่ควรพิจารณา
  • ประสิทธิภาพเหมาะเฉพาะห้องขนาดเล็ก — ไม่ครอบคลุมพื้นที่กว้าง

พื้นที่ครอบคลุม : 16 ตร.ม.

ความคุ้มค่า: 8.2/10

10. Philips Air Purifier AC0650/10

2,860 บาท   (เปิดตัว  3,590 บาท)

ราคายังไม่รวมส่วนลด

เครื่องฟอกอากาศแบรนด์ดังที่เน้นประสิทธิภาพด้วยระบบกรอง HEPA และ Carbon Filter ช่วยขจัดสารพิษและกลิ่นไม่พึงประสงค์

จุดเด่น
  • ระบบกรองครบถ้วนหลายชั้น ดักจับฝุ่น​ PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้ครอบคลุม

  • ประสิทธิภาพขจัดกลิ่นดี ลดกลิ่นอับ–ควัน–กลิ่นสัตว์เลี้ยงได้อย่างรวดเร็ว

  • ราคาสมเหตุสมผล ให้ความคุ้มค่าต่อฟังก์ชันที่ได้รับ

จุดที่ควรพิจารณา
  • ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนไส้กรองค่อนข้างสูง — ควรเตรียมงบดูแลรักษาระยะยาว

พื้นที่ครอบคลุม : 44 ตร.ม.

ความคุ้มค่า: 8.8/10